บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU รายงานผลประกอบการประจำไตรมาส 2 ปี 66 บริษัทและบริษัทมีผลขาดทุนสุทธิ 13 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 445 ล้านบาท และมีรายได้รวม 1,112 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 38,330 ล้านบาท ลดลง 37% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ปัจจัยหลักมาจากราคาตลาดก๊าซธรรมชาติ และราคาถ่านหินที่ปรับลดลง

โดยเมื่อรวม 6 เดือนแรกของปี 66 บริษัทมีกำไรสุทธิรวม 4,542 ล้านบาท และมีรายได้รวมประมาณ 23,498 ล้านบาท

รายได้แบ่งตามกลุ่มธุรกิจของ BANPU

• ธุรกิจถ่านหิน มีรายได้เท่ากับ 821 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ปรับลดลง 34% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
• ธุรกิจก๊าซ มีรายได้เท่ากับ 145 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ปรับลดลง 63% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
• ธุรกิจไฟฟ้าและไอน้ำ มีรายได้เท่ากับ 97 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ปรับลดลง 30% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
• ธุรกิจอื่น ๆ มีรายได้เท่ากับ 49 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ปรับเพิ่มขึ้น 444% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

สำหรับ ณ วันที่ 30 มิ.ย.66 บริษัทมีสินทรัพย์รวม 11,762 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 7% จากสิ้นปี 65 และมีหนี้สินรวม 7,738 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 10% จากสิ้นปี 65 โดยมีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด อยู่ที่ 1,466 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 33% จากสินปี 65คำพูดจาก เว็บสล็อตใหม่ล่าสุด

ทั้งนี้ BANPU ระบุว่า ในไตรมาสที่ 2 เศรษฐกิจโลกชะลอตัวลงจากความกังวลสภาวะเศรษฐกิจถดถอย อีกทั้งความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ยังยืดเยื้อ ส่งผลต่อความต้องการใช้พลังงานละชอตัวลง ทำให้ราคาถ่านหิน และก๊าซธรรมชาติปรับลดลง

อย่างไรก็ตามจากสถาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงเป็นผลจากปรากฏการณ์เอลนีโญ่ ทำให้เกิดสภาพอากาศที่มีความผันผวนรุนแรงทั่วโลก ความต้องการใช้ไฟฟ้าโดยเฉพาะในภาคครัวเรือนยังคงมีอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นแนวโน้มราคาพลังงานทั่วโลกจึงมีโอกาสปรับตัวขึ้นในครึ่งหลังขอวปี 66

BANPU ไตรมาส 1/66 กำไรดิ่งหนัก 53% เหตุก๊าซ-ถ่านหินราคาหดตัว

BANPU-BPP ควัก 1.6 หมื่นล้านบาท ซื้อโรงไฟฟ้าก๊าซสหรัฐฯ กำลังผลิต 755 เมกะวัตต์

หุ้น BANPU ปิดตลาดวันที่ 18 ส.ค. 66 ราคาอยู่ที่ 8.65 บาทต่อหุ้น ปรับลดลง 3.35% และในระหว่างวันราคาลงไปแตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 เดือน

นางสมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งแรกปี 2566 นี้ บ้านปูยังสามารถรักษาเสถียรภาพของการดำเนินงานในทุกกลุ่มธุรกิจไว้ได้ แม้ว่าสถานการณ์พลังงานโลกและสภาพอากาศมีความผันผวน ซึ่งล้วนส่งผลต่อแนวนโยบายในแต่ละประเทศ รวมทั้งแนวโน้มในอุปสงค์และอุปทานของการใช้พลังงาน

ทั้งนี้บริษัทฯ ได้เข้าซื้อโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ Temple II ในรัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา ที่ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าข้างเคียงโรงไฟฟ้า Temple I ที่มีอยู่เดิม และเป็นสินทรัพย์ที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้วและสร้างกระแสเงินสดได้ทันที สามารถต่อยอดและผนึกกำลังร่วมกับโรงไฟฟ้า Temple I เพื่อเสริมความแข็งแกร่งของห่วงโซ่คุณค่าของธุรกิจในสหรัฐฯ

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ :คำอธิบายและวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการ ไตรมาสที่ 2 สิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย. 2566